Posted on: 26/02/2022 Posted by: admin Comments: 0

ความหอมกรุ่นอันเป็นเอกลักษณ์และมีเสน่ห์อย่างที่สุดของกาแฟ คือสิ่งที่ดึงดูดใจและทำให้หลงใหลจากผู้ที่รักและชื่นชอบกาแฟอยู่เสมอ ไม่ว่าจะอยู่มุมใดของโลกเชื่อว่าความเป็นกาแฟจะต้องไปถึงทุกพื้นที่แน่นอน แต่คุณรู้หรือไม่ว่ากาแฟเครื่องดื่มที่เราๆ ชื่นชอบในรสชาติกันอยู่นั้นมีแยกย่อยสายพันธุ์ต่างกันไป และแต่ละสายพันธุ์กาแฟก็มีรายละเอียดที่เฉพาะตัวเฉพาะพันธุ์ของใครของมันอีกด้วย

coffee cherry

กาแฟที่ถูกค้นพบบนโลกใบนี้มีอยู่หลากหลายพันธุ์มากๆ แต่ที่นำมาบริโภคกันจริงๆ มีอยู่ประมาณ 4 สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์เอ็กซ์เซลซ่า (Excelsa), พันธุ์ลิเบอริก้า (Liberica), พันธุ์อราบิก้า (Arabica), พันธุ์โรบัสต้า (Robusta) ซึ่งใน 2 สายพันธุ์แรกนั้นไม่เป็นที่นิยมในการนำมาปลูกเท่าใดนัก เพราะเหตุที่ว่ามีความด้อยใรเรื่องของกลิ่นและรสชาติ คือไม่ค่อยอร่อยถูกปากเท่าไร ส่วนอีก 2 สายพันธุ์หลังนั้นคือพันธุ์ที่เป็นที่ถูกปากของผู้ที่ทานกาแฟมากที่สุด จึงถูกปลูกและนิยมนำมาขายในเชิงพาณิชย์เป็นจำนวนมากทั่วโลก ทำไมต้องเป็นอราบิก้า และ โรบัสต้า วันนี้เรามาทำความรู้จักถึงเสน่ห์และรายละเอียดที่แตกต่างกันของทั้งสองสายพันธุ์กาแฟกันดีกว่า

arabica-robusta-beans

Arabica อราบิก้า คือ พันธุ์กาแฟที่ถูกค้นพบและมีการปลูกมาอย่างเก่าแก่มากๆ ลักษณะของเมล็ดจะเป็นเมล็ดที่ค่อนข้างเรียวและส่วนผ่าตรงกลางนั้นจะเป็นเหมือนรูปตัว S ในภาษาอังกฤษ พื้นที่ที่ใช้ปลูกอราบิก้าให้ได้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพควรจะเป็นที่สูง อากาศเย็น เพราะสายพันธุ์นี้เขาชอบและจะเจริญเติบโตได้ดี จึงจำเป็นต้องปลูกบนพื้นที่ที่อยู่เหนือขึ้นไปจากระดับของน้ำทะเลประมาณ 800 – 1,000 เมตร หรือให้ดีเลยก็ 1,000 เมตร ขึ้นไป จึงเป็นเหตุให้เราสามารถพบการปลูกอราบิก้ามากที่สุดในแถบจังหวัดภาคเหนือของไทย เช่น เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง เป็นต้น และด้วยเอกลักษณ์ของกลิ่นที่หอมอย่างพอดี พร้อมกับรสชาติที่ออกไปทางกลมกล่อมนุ่มนวล อีกทั้งยังมีปริมาณของคาเฟอีนที่ต่ำมากไม่ถึง 2% นี่เอง ที่ส่งผลให้สายพันธุ์กาแฟอราบิก้าเป็นที่นิยมและขายได้มากที่สุดในโลก เฉลี่ยถึง 80% กันเลยทีเดียว

Robusta โรบัสต้า คือ พันธุ์กาแฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคิดเป็น 20% ทั่วโลกรองลงมาจากอราบิก้า ลักษณะของเมล็ดจะอวบอ้วนและส่วนผ่าตรงกลางนั้นจะเป็นเส้นตรง โรบัสต้าจะปลูกในพิ้นที่ต่างกับอราบิก้าโดยสินเชิงคือ ปลูกในพื้นที่ต่ำ ให้มีความสูงจากระดับน้ำทะเลเพียง 500 – 600 เมตร เท่านั้น เพราะพันธุ์นี้จะปลูกให้ได้คุณภาพที่ดีต้องปลูกในพื้นที่อากาศชุ่มชื้น จึงพบว่านิยมปลูกในจังหวัดแถบภาคใต้ เช่น ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี เป็นต้น ส่วนกลิ่นของสายพันธุ์กาแฟโรบัสต้าจะค่อนข้างออกไปทางฉุน รสชาติก็จะเข้มข้นและขมกว่า ส่วนมากจะถุกนำไปทำเป็นกาแฟสำเร็จรูป เพราะด้วยปริมาณคาเฟอีนที่มีมากถึง 2% ขึ้นไป

และสำหรับใครที่ชอบการดื่มกาแฟสดตามร้านละก็ คุณก็น่าจะได้ทานทั้งอราบิก้าและโรบัสต้า เพราะโดยมากแล้วเขาจะนำสายพันธุ์กาแฟทั้งสองมาผสมในอัตราส่วนเท่าๆ กัน หรือตามสูตรผสมของในแต่ละร้าน เพื่อให้ได้รสชาติที่ลงตัวและน่าประทับใจมากที่สุดสำหรับคุณ จะว่าไปก็เริ่มได้กลิ่นอันชวนลิ้มลองซะแล้ว ถ้าอย่างนั้นไปดื่มด่ำสักแก้วดีกว่า

ถ้าอยากลองดื่มกาแฟของเรา ซื้อได้ที่นี่นะคะ :

เรียบเรียงโดย : SUZUKI COFFEE THAILAND